หวยกับการเงิน เป
การเล่นหวยเป็นความหวังเล็กๆ ของคนไทยหลายคนที่หวังจะใช้เงินรางวัลเป็นตัวช่วยปลดหนี้หรือปรับเปลี่ยนชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยที่มักจะเลือกการซื้อลอตเตอรี่หรือหวยใต้ดินเพื่อหวังโชคในการเสี่ยงดวง แม้ว่าจะมีโอกาสน้อยที่จะถูกรางวัลใหญ่ก็ตาม ขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีรายได้สูงกลับนิยมออมเงินและลงทุนในแหล่งที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า บทความนี้จะชวนคุณสำรวจถึงความแตกต่างในพฤติกรรมการใช้เงินของกลุ่มคนที่มีรายได้ต่างกัน พร้อมกับมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
หวยกับการเงิน: ความเชื่อและผลกระทบที่ต่างกันระหว่างรายได้ต่ำและสูง
ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนเป็นวันที่คนไทยจำนวนมากเฝ้ารอคอย เพื่อลุ้นผลสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีรายได้ต่ำที่มักมองการเล่นหวยเป็นช่องทางพิเศษในการปลดหนี้หรือหวังให้เงินก้อนเปลี่ยนชีวิต อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ของธนาคารไทยพาณิชย์พบว่าการเล่นหวยไม่เพียงเป็นความหวัง แต่ยังเป็นภาระเพิ่มให้กับกลุ่มที่รายได้น้อยเช่นกัน ในขณะที่คนมีรายได้สูงมักเลือกแนวทางการออมเงินเป็นหลัก
1. หวย
จากข้อมูลสถิติการใช้จ่ายของครัวเรือนในปี 2560 พบว่าครัวเรือนรายได้น้อยมีการใช้เงินไปกับการซื้อหวยในสัดส่วนที่สูงกว่าครัวเรือนรายได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวยใต้ดินที่ผิดกฎหมายซึ่งไม่เพียงเป็นภาระทางการเงิน แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดหนี้สินและปัญหาทางกฎหมาย ในการซื้อหวยแต่ละงวดนั้น ความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลใหญ่มีเพียงร้อยละเล็กน้อย ยกตัวอย่างจากสถิติว่าโอกาสถูกรางวัลใหญ่มีน้อยกว่าการเกิดฟ้าผ่า ทำให้หวยกลายเป็นทั้งความหวังและความเสี่ยงที่มีโอกาสน้อยที่จะสำเร็จ
2. ความแตกต่างในอัตราการออมของครัวเรือน
ข้อมูลจากอีไอซีชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างด้านพฤติกรรมการออมเงินระหว่างครัวเรือนรายได้ต่ำและรายได้สูง โดยครัวเรือนที่รายได้ต่ำมีอัตราการออมเพียง 12% ของรายได้ ในขณะที่ครัวเรือนรายได้สูงมีอัตราการออมสูงถึง 28% ของรายได้ การที่ครัวเรือนรายได้ต่ำให้ความสำคัญกับการซื้อลอตเตอรี่สูงกว่าการออมทำให้ไม่สามารถเก็บออมเพื่อรองรับความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของกลุ่มรายได้น้อยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
3. หนี้สินและช่องว่างทางการเงินที่สูงขึ้น
หนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 12.827 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 78.6% ของ GDP ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2560 ที่อยู่ที่ 78.3% การที่กลุ่มคนที่รายได้น้อยก่อหนี้เพิ่มในอัตราที่สูง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีภาระที่ต้องชำระหนี้บ้านหรือรถยนต์ ซึ่งเป็นภาระผูกพันหลายปี การขาดแผนการเงินที่ยั่งยืนจึงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาทางการเงินในกลุ่มรายได้น้อย
4. การใช้เงินกับการลงทุนที่ต่างกันในกลุ่มรายได้สูงและต่ำ
รายงานจากศูนย์วิเคราะห์วิจัย Customer Insights by TMB Analytics ของธนาคารทหารไทยระบุว่าคนไทยประมาณ 20 ล้านคนซื้อลอตเตอรี่เป็นมูลค่ารวมกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับสามเท่าของการลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มคนรายได้สูงมักจะเลือกใช้เงินในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า คนรายได้สูงมากกว่า 50% ซื้อหวยปีละ 14 ครั้ง เฉลี่ย 10,000 บาท ซึ่งมากกว่ากลุ่มทั่วไปเกือบสองเท่า สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าความนิยมในการเล่นหวยไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มรายได้ต่ำเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงกลุ่มคนที่มีรายได้สูง อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรายได้สูงมักมีเงินออมเพียงพอและมีการลงทุนในแหล่งที่เสี่ยงน้อยกว่า ทำให้การซื้อลอตเตอรี่กลายเป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือเพิ่มความตื่นเต้นในชีวิตเท่านั้น
5. ทางออกเพื่อสร้างฐานะทางการเงินที่ยั่งยืน
การสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรายได้น้อยที่มีภาระหนี้สูง และมีโอกาสน้อยในการถูกรางวัลใหญ่ในแต่ละงวด การลดค่าใช้จ่ายในการซื้อลอตเตอรี่สามารถช่วยให้มีเงินออมเพื่อนำไปใช้ในยามฉุกเฉินหรือในโอกาสสำคัญในอนาคต อีกทั้งการเริ่มต้นออมเงินในรูปแบบที่เสี่ยงน้อยกว่ายังสามารถช่วยสร้างหลักประกันให้กับครอบครัวได้ การสร้างทางเลือกด้านการเงินที่ยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่ทุกคนควรคำนึงถึง เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องและลดความเสี่ยงจากหนี้ครัวเรือน
การเล่นหวยและการออมเงินสะท้อนถึงแนวคิดด้านการเงินที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มรายได้ต่ำและสูง โดยกลุ่มรายได้น้อยมักจะให้ความสำคัญกับการเสี่ยงโชคจากหวยมากกว่า ในขณะที่กลุ่มรายได้สูงนิยมออมเงินและลงทุนในแหล่งที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า แม้การซื้อลอตเตอรี่จะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในทุกกลุ่ม แต่การออมเงินและการลงทุนอย่างมีแผนระยะยาวกลับเป็นวิธีที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ดีกว่าในระยะยาว การลดค่าใช้จ่ายในการเสี่ยงโชคและเพิ่มสัดส่วนการออมเป็นแนวทางที่สามารถช่วยให้ทุกคนมีหลักประกันทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น