สายมูต้องรู้ !! 4 วัดดังเมืองเชียงใหม่ ที่มูแล้วรวย โชคปังแน่นอน !!

          ถ้าพูดถึงการไปวัดแล้วล่ะก็ สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือการไปทำบุญ แต่เมื่อทำบุญแล้ว ทุกคนก็ต้องมีสิ่งที่หวังกันด้วย ก็คือ การขอพร ขอโชคลาภต่าง ๆ นั่นเอง ดังนั้น หลายคนที่เป็นสายเสริมดวงเสริมโชค ก็จะต้องมีวัดที่ต้องไปแบบเฉพาะเจาะจง และในบทความนี้ หงษ์ทอง จะพาไปรู้จักกับ 4 วัดสายมูเสริมโชคลาภ ที่ต้องไป ในจังหวัดเชียงใหม่ จะมีที่ไหนบ้าง เราไปดูกัน

1. พระนอน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

          วัดดวงดี ตั้งอยู่ที่ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อก่อนนั้นจะมีชื่อว่า วัดต้นหมากเหนือ แต่บางตำราก็บอกว่าชื่อ วัดพันธนุดวงดี เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงดงามอย่างไม้แกะสลัก ซึ่งตัววัดเองก็ได้รับประกาศเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2524 อีกด้วย

          ที่พลาดไม่ได้เลยคือ พระพุทธรูปดวงดี พระประธานปางมารวิชัย ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน ตรงฐานพระมีจารึกว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2039 เป็นพระพุทธรูปที่ต้องไปสักการะเสริมดวง ซึ่งเป็นการเสริมสิริมงคล ช่วยเสริมดวงกันนั่นเอง

2. วัดลอยเคราะห์

          วัดลอยเคราะห์ เป็น วัดสวย ของ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง เมื่อก่อนนั้นจะมีชื่อว่า วัดร้อยข้อ หรือ วัดฮ้อยข้อ สร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 1910 ในสมัยของพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย ต่อมาในช่วงปลายรัชสมัย พม่าก็ได้ยกทัพมาตีล้านนา และยึดครองล้านนา ทำให้วัดต่างๆ ในเชียงใหม่นั้นถูกทิ้งร้างไป

          ภายในพระวิหารของ วัดลอยเคราะห์ ประดิษฐาน พระพุทธศุภโชคศรีลอยเคราะห์มิ่งมงคล ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเชื่อกันว่าถ้าใครได้มาสักการะก็จะหมดทุกข์โศกทั้งปวง

3. วัดหมื่นล้าน

          วัดหมื่นล้าน หรือเก่าของวัดก็คือ วัดหมื่นสามล้าน ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2002-พ.ศ. 2005 ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ราชวงศ์มังราย โดยผู้สร้างวัดก็คือขุนพลของพระองค์ ชื่อว่า หมื่นโลกสามล้านขุนพลแก้ว หรือ หมื่นด้ง ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแก่แม่ทัพของอยุธยาที่แพ้ในช่วงสงครามและเสียชีวิตในสนามรบนั่นเอง รวมถึงยังเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แม่ทัพนายกองของล้านนาอีกด้วย

4. วัดพันเตา

          วัดพันเตา หรือวัดกันเค้า สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพ.ศ. 1934 เป็นวัดร่วมสมัยกับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่โด่งดังเป็นอันดับต้น ๆ ของเชียงใหม่ สันนิษฐานฐานว่าผู้สร้างคงจะเป็นเศรษฐีท่านหนึ่งที่อยู่ในบริเวณนั้น โดยมีหลักฐานปรากฎว่าชื่อพันเท้า ต่อมาคงเพี้ยนเป็นคำว่า พันเตา โดยภายในวัดมีวิหารหอคำสร้างดัวยไม้สัก ด้านหลังหอคำมีเจดีย์ทรงระฆังบนฐานแปดเหลี่ยม ล้อมรอบด้วยเจดีย์ราย 18 องค์ และนอกจากนี้ภายในหอคำยังมี ธรรมาสน์โบราณที่สร้างโดยเจ้าเมืองเชียงใหม่พระองค์สุดท้าย พร้อมกับการสร้างองค์พระประธานในหอคำด้วย